รายได้ในธุรกิจที่พัก รีสอร์ท โรงแรม จะมากน้อย
ขึ้นอยู่กับ จำนวนผู้เข้าพัก
.
เรื่องแรกที่เจ้าของธุรกิจ ควรพิจารณา คือ ห้องนอน เพราะ ห้องนอน หรือจำนวนที่นอน
หมายถึง ” รายได้ ” หลักๆของธุรกิจ
ในวันที่มีลูกค้าจองเข้าพักน้อย……ที่พักว่าง……เจ้าของธุรกิจ คงต้องปรับวางแผน กันในส่วนการตลาด
ทั้งโปรโมชั่น ช่องการตลาดต่างๆ ซึ่งไม่ขอลงรายละเอียด ณ ที่นี้
.
แต่วันที่มีลูกค้า จองเข้าพักล้น ห้องพักมีไม่พอ…….อันนี้ก็เป็นปัญหา แต่เป็นปัญหาหาจาก การเสียโอกาส
แม้เป็น…..ปัญหาที่น่าหมั่นไส้
โดยเราไม่สามารถ วางแผน หรือแก้ไขอะไรได้เลย…….เพราะเราสร้างจำนวนที่พักเพิ่มทันทีไม่ได้
.
เราทำได้เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือ……….” ที่นอน หรือ เตียงเสริม “
.
เตียง หรือ ที่นอน จึงมีความสำคัญต่อ ” การสร้างรายได้ ” ในธุรกิจรีสอร์ท ที่พัก เป็นอย่างยิ่ง
.
ที่พัก ที่มีการตกแต่งที่สวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี สามารถช่วยจูงใจให้ ลูกค้าตัดสินใจเข้าพักได้ง่ายขึ้น ถือว่าเป็นกลยุทธทางธุรกิจของแต่ละที่พัก
.
แต่ “จำนวนที่นอน” แปรผันโดยตรงกับ “จำนวนผู้เข้าพัก” ซึ่งเกี่ยวพันโดยตรงกับ “รายได้” ของธุรกิจ
.
ดังนั้น การวางแผน ออกแบบ การวาง เตียงหรือที่นอนในห้องพัก ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ จึงมีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆที่เจ้าของธุรกิจควรคำนึงถึง
.
เพราะ ที่นอนเสริม…….เป็นการแก้ปัญหา ปลายเหตุ หรือเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
.
หลายคนคิดว่า…..ห้องพัก ก็มีแค่ห้อง เตียงเดี่ยว เตียงคู่ แล้วก็มีที่นอนเสริม……..เราจะทำอะไรได้มากกว่านั้น ?
.
.
เรามาดูไอเดีย รีสอร์ท ขนาดเล็กๆว่า สามารถออกแบบการวางจำนวนที่นอน ในพื้นที่จำกัดได้อย่างไรบ้าง
แบบที่1……เตียง 2 ชั้น
จุดเด่นของเตียง 2 ชั้น : การเพิ่มจำนวนที่นอน โดยไม่เพิ่มพื้นที่ห้อง
.
ห้องพักที่สามารถวางเตียง 2 ชั้นได้ ต้องออกแบบ ความสูงของห้อง มากกว่า 2.5 เมตรขึ้นไป ดังนั้น รีสอร์ทใดที่ต้องการ
นำเตียง 2 ชั้น ควรวางแผนไว้ตั้งแต่การออกแบบ เพราะ ห้องที่สูงมากกว่า 2.5 เมตร ทำให้เราสามารถ ” เลือกได้ ” ว่าจะวางเตียง 2 ชั้นหรือไม่
ส่วนห้องที่มีความสูงไม่ถึง ก็ไม่สามารถขยายความสูง เพื่อวางเตียง 2 ชั้นได้ เพราะจะต้องแก้ไขโครงสร้างตัวห้อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
.
อย่างไรก็ตาม เจ้าของรีสอร์ท ควรคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้บริการด้วย เตียง 2 ชั้นจะเหมาะกับกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อนวัยรุ่น
ดังนั้นรีสอร์ท ที่เจาะกลุ่ม คนทำงาน กลุ่มผู้ใหญ่ จึงไม่สะดวกในการปีนขึ้นไปนอนชั้น 2 รวมถึงกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย
.
นอกจากนี้ ในพื้นที่ห้องขนาดจำกัด การวางเตียงชิดผนัง.. ก็ทำให้ผู้เข้าพักไม่สะดวกเท่าไหร่นัก เพราะผู้ที่นอนติดกับผนัง
ถ้าต้อง ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ ก็ต้องขยับตัวลงมาปลายเตียง หรือ ข้ามตัวผู้ที่นอนด้านริมเตียง ซึ่งทำให้ผู้ที่นอนด้วย ตื่นนอนไม่หลับ
รวมถึง การปีน ขึ้น-ลง เตียง ก็อาจทำให้ผู้ที่นอนด้านล่าง ตื่นได้เช่นกัน
.
.
แบบที่2……เตียง 2 ชั้น (แบบมีลิ้นชักลากใต้เตียง)
.
สำหรับเตียงที่มีลิ้นชักใต้เตียง เพื่อลากเตียงหรือที่นอน เสริมเพิ่มออกมา
จุดเด่น เป็นการเพิ่มที่นอนเสริม ที่จัดเก็บได้สะดวก เหมาะสำหรับ กลุ่มครอบครัวที่มีลูกๆ มานอนพักด้วย แต่เนื่องจากที่นอนมีความสูง
ต่างระดับกัน อาจจะไม่ตอบโจทย์ครอบครัวที่ต้องการให้ลูกนอนด้วยกันกับพ่อแม่
นอกจากนี้ ที่นอนที่ลากออกมานั้น มี ล้อเลื่อน เพื่อให้ที่นอนสามารถเคลื่อนที่ ลากเก็บ เข้าออก ใต้เตียงได้
ทำให้ ในกรณีที่ลุกยืนบนที่นอน อาจทำให้ที่นอนเคลื่อนที่และล้มลงได้
.
แบบที่ 3……นำเตียงวางต่อกัน
การนำเตียงมาวางต่อกัน จะทำให้เพิ่มพื้นที่ ที่นอน ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการ “เพิ่มจำนวนผู้เข้าพัก” ได้ด้วย
ยกตัวอย่างเช่น การนำเตียงขนาด 3.5 ฟุต ซึ่งเป็นเตียงเดี่ยวจำนวน 2 เตียง มาวางต่อกัน จากเดิม เตียงเดี่ยว 2 เตียง
จะรองรับผู้เข้าพักได้ 2 ท่าน
แต่หากนำมาวางต่อกัน จากเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต จะกลายเป็น เตียงขนาดใหญ่ 7 ฟุต ที่สามารถรองรับได้การนอนของเต็กได้เพิ่มขึ้น
หรือถ้านอนชิดๆกัน ก็สามารถนอนได้ 3 ท่าน เลยทีเดียว
รูปการนำที่นอนมาวางต่อกันเพื่อให้ได้พื้นที่ ที่นอนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ในกรณีที่ต้องการแยกที่นอน ก็สามารถทำเป็นเตียงเดี่ยว ได้เช่นกัน
รูปเตียงเดี่ยวแยกที่นอน 3 เตียง วางเรียงกัน
จุดเด่นของการ ออกแบบพื้นที่ห้อง ให้สามารถวางเตียง เดี่ยวหลายเตียงเรียงกัน หรือนำมาวางต่อชนกัน คือ
เจ้าของรีสอร์ท อพาร์ทเม้นท์ จะปรับฟังก์ชั่น ห้องให้กับ กลุ่มลูกค้าได้หลายกลุ่ม ในห้องๆเดียว
กลุ่มคนทำงาน ที่ต้องการ นอนเตียงเดี่ยวแยกกัน(เตียงคู่) หรือ
กลุ่มครอบครัวที่ต้องการนอนเตียงเดียวกัน(เตียงเดี่ยว) ขนาดใหญ่ ที่นอนพร้อมกันพ่อแม่ลูก
หรือกลุ่มคู่รัก ที่ต้องการนอนพื้นที่ ที่นอนกว้างๆ ทำให้
ห้องพักห้องเดียวเป็นได้ทั้ง เตียงเดี่ยว เตียงคู่ และ เตียงครอบครัว
หมดปัญหา ลูกค้าต้องการห้องพักเตียงเดี่ยว และห้องพักเตียงเดี่ยวเต็ม เหลือแต่ห้องเตียงคู่ หรือ
ลูกค้าที่ต้องการเตียงคู่ แต่ห้องพักเต็ม เหลือแต่ห้องพักเตียงเดี่ยว……..ซึ่งทำให้พลาดโอกาส สร้างรายได้จากลูกค้า ที่ต้องการเข้าพัก
อย่างไรก็ตาม การนำที่นอนวางต่อชนกัน เพื่อทำเป็นเตียงเดี่ยว ยังมีปัญหาคือ ” ร่องรอยต่อที่นอน ” ที่ทำให้ไม่สามารถนอนตรงกลางระหว่างที่นอนได้
ซึ่งสามารถใช้ ” ทีบาร์ ” ปิดร่องระหว่างที่นอน ได้เพื่อให้ที่นอนมี พื้นที่ราบเรียบเป็นชิ้นเดียวกัน และปูด้วยผ้าปูที่นอน ขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อให้เที่นอนเป็นชิ้นเดียวกันตลอดทั้งผืน
รายละเอียด ทีบาร์ เพิ่มเติม >>> Click
.
.
.
การวางแผน เพื่อเลือกการวางจำนวน ทิศทาง และตำแหน่งที่นอน จึงมีความสำคัญ อย่างมากในการทำธุรกิจที่พัก รีสอร์ท อพาร์ทเม้นท์
ดังนั้น ควรวางแผนออกแบบ ห้องให้เหมาะสม ก่อนตัดสินใจ ทำธุรกิจที่พัก เพื่อให้สามารถ สร้างรายได้ จากธุรกิจ โดยไม่เสียโอกาส จากการที่ลูกค้าปฏิเสธห้องพัก ที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า