อาการลูกหอบอาจแสดงออกได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการหอบและความไวของแต่ละบุคคล อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- หายใจลำบาก หายใจเร็ว หายใจถี่
- หายใจมีเสียงวี๊ด
- แน่นหน้าอก
- ไอ
- เหงื่อออก
- ริมฝีปากเขียวคล้ำ
หากลูกมีอาการหอบ พ่อแม่ควรสังเกตอาการของลูกอย่างใกล้ชิด โดยอาจสังเกตจากสิ่งต่อไปนี้
- อาการของลูกดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่ออยู่ในพื้นที่ต่างๆ เช่น ห้องนอน สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน
- อาการของลูกดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่ออยู่ในช่วงฤดูต่างๆ เช่น ฤดูร้อน ฤดูฝน
- อาการของลูกดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่อสัมผัสกับสิ่งต่างๆ เช่น ขนสัตว์ ฝุ่นละออง
วิธีสังเกตอาการลูกหอบเบื้องต้น มีดังนี้
- สังเกตการหายใจของลูก โดยนับจำนวนครั้งที่ลูกหายใจเข้าและหายใจออกใน 1 นาที หากลูกหายใจมากกว่า 40 ครั้งต่อนาที อาจแสดงว่าลูกมีอาการหอบ
- ฟังเสียงหายใจของลูก หากได้ยินเสียงหายใจมีเสียงวี๊ดขณะหายใจเข้าหรือหายใจออก อาจแสดงว่าลูกมีอาการหอบ
- สังเกตท่าทางของลูก หากลูกมีอาการหอบ อาจมีอาการหายใจลำบาก แน่นหน้าอก ไอ หรือเหงื่อออก
หากพบอาการดังกล่าว ควรพาลูกไปพบแพทย์
วิธีป้องกันอาการหอบในเด็กสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ฝุ่นละออง
- รักษาความสะอาดภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ
- ควบคุมความชื้นในบ้านให้ต่ำกว่า 50%
- ให้ลูกออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
ทำไมไรฝุ่นเป็นสาเหตุหลักโรคหืดหอบในเด็ก
เนื่องจากไรฝุ่นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พบได้ทั่วไปในบ้าน โดยไรฝุ่นจะอาศัยอยู่ตามซอกมุมต่างๆ ของบ้าน เช่น ใต้เตียง พรม เฟอร์นิเจอร์บุนวม ผ้าห่ม หมอน เป็นต้น ไรฝุ่นจะกินเศษผิวหนังของคนและสัตว์เป็นอาหาร และปล่อยสารคัดหลั่งออกมา ซึ่งสารคัดหลั่งของไรฝุ่นนี้เองที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง
เด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่น อาจทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้และเกิดอาการแพ้ เช่น จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก คันตา หายใจลำบาก ไปจนถึงโรคหืดหอบ
นอกจากนี้ เด็กเล็กมักใช้เวลาอยู่ภายในบ้าน โดยเฉพาะในห้องนอน มากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กใช้เวลาในการนอน 8-12 ชั่วโมงต่อวัน จึงทำให้มีโอกาสสัมผัสกับไรฝุ่นมากกว่า และอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหืดหอบได้มากขึ้น
การป้องกันโรคหืดหอบในเด็กสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- ควบคุมความชื้นในบ้านให้ต่ำกว่า 50%
- ซักอบ และผ้าห่มของลูกด้วยน้ำร้อน (อุณหภูมิอย่างน้อย 60 องศาเซลเซียส) สัปดาห์ละครั้ง
- เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ห่างจากห้องนอนของลูก
- เลือกใช้ชุดเครื่องนอนที่ใช้เนื้อผ้าการไรฝุ่น ผ่านการรับรองจากสถาบันทางการแพทย์
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันลูกจากโรคภูมิแพ้ คือ การใช้ผ้าคลุมที่นอนหรือผ้ากันเปื้อนรุ่นกันน้ำ รวมถึงปลอกหุ้มหมอนรุ่นกันน้ำ ทำให้สามารถป้องกันไรฝุ่น ไม่ให้หลบเข้าไปอาศัยอยู่ในที่นอนและไส้หมอนได้
นอกจากนี้ ผ้าคลุมที่นอนหรือผ้ากันเปื้อนรุ่นกันน้ำ และปลอกหุ้มหมอนกันรุ่นกันน้ำ ยังช่วยป้องกันไรฝุ่นไม่ให้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของบ้านอีกด้วย
ซึ่งรองรับจากงานวิจัยที่ถูกตีพิมในวารสาร ของสถาบันด้านทรวงอกในอมริกา (ATS:America Thoracic society)
พบว่าการใช้ผ้าคลุมที่นอนที่ป้องกันไรฝุ่น สามารถลดจำนวนเด็กที่เป็นโรคหอบหืดที่ต้องเข้ารักการรักษาได้
แหล่งที่มา https://www.atsjournals.org/doi/10.1164/rccm.201609-1966OC
สนใจสั่งซื้อ ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น, ปลอกหุ้มหมอนกันไรฝุ่น, ผ้าคุลมหุ้มที่นอนกันไรฝุ่น สามารถสอบถามได้ที่ Line: @mildmate