Category Archives: สาระน่ารู้

วิธีสังเกตลูกหอบ..ดูยังไง

อาการลูกหอบอาจแสดงออกได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการหอบและความไวของแต่ละบุคคล อาการที่พบบ่อย ได้แก่ หายใจลำบาก หายใจเร็ว หายใจถี่ หายใจมีเสียงวี๊ด แน่นหน้าอก ไอ เหงื่อออก ริมฝีปากเขียวคล้ำ หากลูกมีอาการหอบ พ่อแม่ควรสังเกตอาการของลูกอย่างใกล้ชิด โดยอาจสังเกตจากสิ่งต่อไปนี้ อาการของลูกดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่ออยู่ในพื้นที่ต่างๆ เช่น ห้องนอน สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน อาการของลูกดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่ออยู่ในช่วงฤดูต่างๆ เช่น ฤดูร้อน ฤดูฝน อาการของลูกดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่อสัมผัสกับสิ่งต่างๆ เช่น ขนสัตว์ ฝุ่นละออง วิธีสังเกตอาการลูกหอบเบื้องต้น มีดังนี้ สังเกตการหายใจของลูก โดยนับจำนวนครั้งที่ลูกหายใจเข้าและหายใจออกใน 1 นาที หากลูกหายใจมากกว่า 40 ครั้งต่อนาที อาจแสดงว่าลูกมีอาการหอบ ฟังเสียงหายใจของลูก หากได้ยินเสียงหายใจมีเสียงวี๊ดขณะหายใจเข้าหรือหายใจออก อาจแสดงว่าลูกมีอาการหอบ สังเกตท่าทางของลูก หากลูกมีอาการหอบ อาจมีอาการหายใจลำบาก แน่นหน้าอก ไอ หรือเหงื่อออก หากพบอาการดังกล่าว ควรพาลูกไปพบแพทย์ วิธีป้องกันอาการหอบในเด็กสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น…

ผ้านวมแบบไหนป้องกันไรฝุ่นได้ดีที่สุด

เป็นที่ทราบกันดีว่า ไรฝุ่น เป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้ หอบหืด และโรคอื่นๆ อีกมากมาย ไรฝุ่นมักอาศัยอยู่ในที่นอน หมอน และผ้าห่มของเรา ดังนั้นการเลือกใช้ชุดเครื่องนอนที่ป้องกันไรฝุ่นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ รวมถึงเด็กเล็ก ผ้านวม (Duvet) เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ เพราะสามารถถอดปลอกผ้านวมซักทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถกำจัดไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ้านวมสำเร็จ (Comforter) ที่เย็บติดไส้ผ้านวมกับเนื้อผ้าเป็นชิ้นเดียวกันนั้น ไรฝุ่นสามารถลอดผ่านรูรอยเย็บเข้าไปอาศัยในไส้ผ้านวมได้ นอกจากนี้ การซักทำความสะอาดผ้านวมสำเร็จอาจทำให้ไส้ผ้านวมจับเป็นก้อน ทำให้น้ำร้อนไม่สามารถเข้าไปกำจัดไรฝุ่นได้อย่างทั่วถึง . ดังนั้น หากต้องการใช้ผ้านวมป้องกันไรฝุ่น จึงควรเลือกใช้ผ้านวมพร้อมไส้หรือ Duvet ที่สามารถถอดปลอกผ้านวมซักทำความสะอาดได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ของผ้านวมแบบ Duvet: ป้องกันไรฝุ่นได้ดีกว่าผ้านวมสำเร็จ ถอดปลอกผ้านวมซักทำความสะอาดได้ง่าย มีให้เลือกหลายแบบหลายขนาด ให้ความอบอุ่นสบาย ข้อควรระวังในการเลือกซื้อผ้านวม เลือกเนื้อผ้านวมที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจากสถาบันทางการแพทย์ ว่าสามารถกันไรฝุ่นได้ ซักปลอกผ้านวมด้วยน้ำอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อกำจัดไรฝุ่นและเชื้อโรค สรุป การเลือกผ้านวมสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ควรเลือกผ้านวมแบบ Duvet ที่สามารถถอดปลอกผ้านวมซักทำความสะอาดได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดอาการภูมิแพ้และช่วยให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น

ผ้าปูที่นอนไม่ติดขนแมว

@dadareviewtoday69 มา unbox 📦 ชุดเครื่องนอนไม่ติดขนแมวรับรองโดยศิริราช ♬ nhạc nền – 1999_1885 – 🤍 @bt.mildmate ทดสอบการติดขนบนผ้าปูที่นอน #ผ้าปูที่นอนไม่ติดขนสัตว์ #ผ้าปูที่นอนไม่ติดขนแมว #mildmate ♬ Alone – Official Sound Studio

ถุงใส่ผ้าอนามัยใช้ยังไง

วิธีและขั้นตอนการใช้ถุงใส่ผ้าอนามัย เพื่อให้ถูกสุขอนามัยในการกำจัดผ้าอนามัยที่ใช้แล้ว 1.เปิดถุงอนามัย: หยิบถุงอนามัยจากเครื่องจ่ายหรือของใช้ส่วนตัวของคุณ หากเป็นถุงที่ปิดสนิท ให้ฉีกหรือตัดด้านบนให้เปิดเพื่อเข้าถึงด้านใน 2. เตรียมผ้าอนามัยที่ใช้แล้ว: หากคุณใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้แกะออกก่อน และหากคุณใช้แผ่นอนามัยหรือแผ่นซับในกางเกง ให้พับหรือห่อให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เลอะเทอะ 3. วางผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไว้ด้านในถุง: ใส่ผ้าอนามัยที่ใช้แล้วลงในถุงอนามัยอย่างระมัดระวัง หากคุณใช้แผ่นรองหรือซับ คุณอาจต้องพับให้พอดีกับกระเป๋า 4. ปิดผนึกถุงใส่ผ้าอนามัย: เมื่อผ้าอนามัยที่ใช้แล้วอยู่ในถุง ให้บิดหรือพับด้านบนของถุงเพื่อปิดผนึกอย่างแน่นหนา ถุงบางชนิดอาจมีแถบกาวหรือสายรัดเพื่อปิดปากถุง 5. ทิ้งถุงอนามัยอย่างถูกต้อง: หลังจากปิดถุงอนามัยแล้ว จำเป็นต้องทิ้งอย่างถูกต้อง มองหาถังขยะที่ถูกสุขอนามัยที่กำหนดไว้ในห้องน้ำ หากไม่พบถังขยะเฉพาะ สามารถทิ้งในถังขยะทั่วไปได้ 6. ล้างมือ: หลังจากทิ้งถุงอนามัยและก่อนออกจากห้องน้ำ อย่าลืมล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำเพื่อรักษาสุขอนามัยที่เหมาะสม ห้องน้ำสาธารณะหรือโรงแรมบางแห่งไม่ได้จัดเตรียมถุงอนามัยไว้ ดังนั้นในช่วงที่มีรอบเดือน ควรพกถุงแบบใช้แล้วทิ้งติดตัวไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าจะต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยขณะไม่อยู่บ้าน การใช้ถุงอนามัยเป็นวิธีที่คำนึงถึงสุขอนามัยของคุณในช่วงมีประจำเดือน

อาการแพ้ไรฝุ่นเป็นอย่างไร

อาการแพ้ไรฝุ่น เป็นปฏิกิริยาการแพ้ที่ต่อไรฝุ่น ซึ่งพบได้ทั่วไปในฝุ่นในห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ไรฝุ่นเป็นสัตว์ขนาดเล็ก ขามีปล้องขนาดเล็ก เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น และกินเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของมนุษย์และสัตว์ มักพบในเครื่องนอน ที่นอน หมอน เฟอร์นิเจอร์บุนวม พรม และเครื่องเรือนที่อ่อนนุ่มอื่นๆ สำหรับคนส่วนใหญ่ ไรฝุ่นไม่มีอันตราย แต่ผู้ที่แพ้ไรฝุ่นจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองได้รวดเร้วกับโปรตีนที่พบในอุจจาระ ส่วนต่างๆ ของร่างกาย และสารคัดหลั่งของไรฝุ่น เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ ระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยฮีสตามีนและสารเคมีอื่นๆ ซึ่งนำไปสู่อาการแพ้   อาการทั่วไปของการแพ้ไรฝุ่น ได้แก่ : จาม น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก คันตาหรือน้ำตาไหล คัดจมูก อาการไอ ผิวหนังคันหรือลมพิษ หายใจลำบากหรือหายใจไม่ออก (สำหรับผู้ที่เป็นโรคหืดหอบ) การป้องกันอาการแพ้ไรฝุ่นในเด็กสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้ ควบคุมความชื้นในบ้านให้ต่ำกว่า 50% ซักอบ และผ้าห่มของลูกด้วยน้ำร้อน (อุณหภูมิอย่างน้อย 60 องศาเซลเซียส) สัปดาห์ละครั้ง เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ห่างจากห้องนอนของลูก เลือกใช้ชุดเครื่องนอนที่ใช้เนื้อผ้าการไรฝุ่น ผ่านการรับรองจากสถาบันทางการแพทย์ อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันลูกจากโรคภูมิแพ้ คือ การใช้ผ้าคลุมที่นอนหรือผ้ากันเปื้อนรุ่นกันน้ำ รวมถึงปลอกหุ้มหมอนกันรุ่นกันน้ำ ที่สามารถป้องกันไรฝุ่น ไม่ให้หลบเข้าไปอาศัยอยู่ในที่นอนและไส้หมอน…

นอนน้ำลายไหลแก้อย่างไร

น้ำลายไหลระหว่างนอนหลับเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับหลายคน และอาจเกิดจากหลายปัจจัย หากต้องการลดหรือหยุดการหลั่งน้ำลายในระหว่างการนอนหลับ เรามีเคล็ดลับที่อาจช่วยได้ดังนี้: 1.ท่านอน: ลองนอนหงายแทนที่จะนอนคว่ำหรือนอนตะแคง เมื่อคุณนอนหงาย แรงโน้มถ่วงจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำลายไหลมารวมกันบริเวณปากของคุณ ช่วยลดโอกาสที่น้ำลายไหล 2.ยกศีรษะขึ้น: การใช้หมอนเสริมหรือยกหัวเตียงให้สูงจะช่วยให้ศีรษะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ทำให้น้ำลายไหล 3.รักษาความชุ่มชื้น: บางครั้งน้ำลายไหลมากเกินไปอาจเป็นผลมาจากการขาดน้ำ ให้แน่ใจว่าคุณดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวันเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ 4.หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และยาระงับประสาท: แอลกอฮอล์และยาบางชนิดสามารถคลายกล้ามเนื้อในปากและคอของคุณ ทำให้น้ำลายไหลได้ง่ายขึ้น การจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์และหลีกเลี่ยงยาระงับประสาทก่อนนอนอาจช่วยได้ 5.การหายใจทางจมูก: การหายใจทางจมูกแทนทางปากในระหว่างการนอนหลับสามารถช่วยลดการผลิตน้ำลายและโอกาสที่น้ำลายไหลได้ หากคุณมีอาการคัดจมูก ให้ลองใช้ยาลดน้ำมูกหรือผ้าปิดจมูกเพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ 6.สุขภาพช่องปาก: การรักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดี รวมถึงการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยป้องกันการผลิตน้ำลายมากเกินไปซึ่งอาจทำให้น้ำลายไหลได้ 7. ใช้หมอนสุขภาพ: มีหมอนเพื่อสุขภาพและอุปกรณ์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้นอนหงายและป้องกันไม่ให้น้ำลายไหล . 8.ปัญหาภูมิแพ้และไซนัส: หากคุณมีปัญหาภูมิแพ้หรือไซนัส อาจทำให้น้ำลายไหลมากเกินไปได้ การรักษาภาวะเหล่านี้ด้วยยาแก้แพ้หรือยาลดน้ำมูกอาจช่วยลดอาการน้ำลายไหลได้ 9.การบริหารลิ้น: บางคนพบว่าการบริหารลิ้นบางอย่างสามารถช่วยปรับปรุงการควบคุมกล้ามเนื้อและลดน้ำลายไหล คุณสามารถปรึกษาเรื่องนี้กับนักบำบัดการพูดเกี่ยวกับแบบฝึกหัดเฉพาะที่เหมาะกับความต้องการของคุณ 10.ไปพบแพทย์: หากอาการน้ำลายไหลระหว่างการนอนหลับยังคงอยู่แม้ว่าจะลองใช้มาตรการเหล่านี้แล้วก็ตาม จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ พวกเขาสามารถประเมินว่ามีเงื่อนไขทางการแพทย์พื้นฐานที่ก่อให้เกิดปัญหาหรือไม่ และแนะนำการรักษาที่เหมาะสม การนอนน้ำลายไหลเป็นครั้งคราวระหว่างการนอนหลับเป็นเรื่องปกติสำหรับคนส่วนใหญ่ และไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป เว้นแต่จะกลายเป็นปัญหาสำคัญหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย . . อย่างไรก็ตาม หากน้ำลายไหลระหว่างนอนและซึมลงเข้าไปในหมอน จะทำให้หมอนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย และอาจเกิดเชื้อรา ทำให้หมอนมีกลิ่น และป่วยจากเชื้อโรคได้ กันเปื้อนหมอน (ไม่ใช่หมอน) สามารถป้องการน้ำ…

ที่นอน3ฟุต..ขนาด กี่ ซม.

ทำให้ผ้าปูที่นอน 3 ฟุตหาซื้อใส่พอดียาก ซึ่งต้องวัดขนาดเพื่อ สั่งตัด จึงสามารถใส่ได้พอดีกับขนาดที่นอน

[กำจัด]ไรฝุ่นอย่างไร..ช่วยลดอาการภูมิแพ้

สามารถทำได้ด้วยการดูแลรักษาความสะอาดเครื่องนอน หมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม อย่างสม่ำเสมอ โดยมีขั้นตอนที่สามารถลดประชากรไรฝุ่นบนที่นอนดังนี้: 1. ซักเครื่องนอนเป็นประจำ: ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และเครื่องนอนอื่นๆ ในน้ำร้อน (อย่างน้อย 130°F หรือ 54°C) สัปดาห์ละครั้ง น้ำร้อนช่วยฆ่าไรฝุ่นและกำจัดสารก่อภูมิแพ้   2. ใช้ชุดเครื่องนอนชนิดผ้ากันไรฝุ่น: นอกจากการใช้ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน กันไรฝุ่นแล้ว บางครั้งเรานำปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนถอดไปซักทำความสะอาด แต่ไรฝุ่นสามารถ หลบไปอยู่ในที่นอนและหมอนได้ โดยเราสามารถใช้ ผ้ารองกันเปื้อน และปลอกกันเปื้อนหมอนกันน้ำ ร่วมกับปลอกหมอนและผ้าปูที่นอน เพื่อไม่ให้ไรฝุ่นหลบเข้าไปในที่นอนและหมอนได้   3. ดูดฝุ่นอย่างทั่วถึง: ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA เพื่อทำความสะอาดฟูก หมอน และเครื่องนอนของคุณเป็นประจำ การดูดฝุ่นช่วยกำจัดไรฝุ่นและเศษซากของมันออกจากพื้นผิว 4.ลดความชื้น: ไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้น ใช้เครื่องลดความชื้นหรือเครื่องปรับอากาศเพื่อรักษาระดับความชื้นในห้องนอนของคุณให้อยู่ระหว่าง 30% ถึง 50%   5.หลีกเลี่ยงการปูพรม: ถ้าเป็นไปได้ หลีกเลี่ยงการมีพรมหรือพรมในห้องนอนของคุณ เพราะพวกมันสามารถดักจับไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้ เลือกใช้พื้นไม้เนื้อแข็งหรือพื้นลามิเนตซึ่งทำความสะอาดได้ง่ายกว่า 6.แสงแดดและอากาศบริสุทธิ์:…

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การท่องเว็บของท่านบนเว็บไซต์ของเราเพื่อแสดงเนื้อหาส่วนบุคคลและโฆษณาที่ตรงเป้าหมายเพื่อวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์ของเราและทำความเข้าใจว่าผู้เยี่ยมชมมาจากที่ใด ท่านสามารถจัดการค่ากำหนดของคุณได้โดยคลิกการตั้งค่า และศึกษาเกี่ยวกับ นโยบายข้อมูลส่วนบุลคลของเราและการใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า