ปัญหานอนน้ำลายไหล…ป้องกันได้อย่างไร?
น้ำลายไหลระหว่างนอนหลับเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับหลายคน และอาจเกิดจากหลายปัจจัย หากต้องการลดหรือหยุดการหลั่งน้ำลายในระหว่างการนอนหลับ
เรามีเคล็ดลับที่อาจช่วยได้ดังนี้:
1.ท่านอน: ลองนอนหงายแทนที่จะนอนคว่ำหรือนอนตะแคง เมื่อคุณนอนหงาย แรงโน้มถ่วงจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำลายไหลมารวมกันบริเวณปากของคุณ ช่วยลดโอกาสที่น้ำลายไหล
2.ยกศีรษะขึ้น: การใช้หมอนเสริมหรือยกหัวเตียงให้สูงจะช่วยให้ศีรษะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ทำให้น้ำลายไหล
3.รักษาความชุ่มชื้น: บางครั้งน้ำลายไหลมากเกินไปอาจเป็นผลมาจากการขาดน้ำ ให้แน่ใจว่าคุณดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวันเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
4.หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และยาระงับประสาท: แอลกอฮอล์และยาบางชนิดสามารถคลายกล้ามเนื้อในปากและคอของคุณ ทำให้น้ำลายไหลได้ง่ายขึ้น การจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์และหลีกเลี่ยงยาระงับประสาทก่อนนอนอาจช่วยได้
5.การหายใจทางจมูก: การหายใจทางจมูกแทนทางปากในระหว่างการนอนหลับสามารถช่วยลดการผลิตน้ำลายและโอกาสที่น้ำลายไหลได้ หากคุณมีอาการคัดจมูก ให้ลองใช้ยาลดน้ำมูกหรือผ้าปิดจมูกเพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ
6.สุขภาพช่องปาก: การรักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดี รวมถึงการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยป้องกันการผลิตน้ำลายมากเกินไปซึ่งอาจทำให้น้ำลายไหลได้
7. ใช้หมอนสุขภาพ: มีหมอนเพื่อสุขภาพและอุปกรณ์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้นอนหงายและป้องกันไม่ให้น้ำลายไหล
.
8.ปัญหาภูมิแพ้และไซนัส: หากคุณมีปัญหาภูมิแพ้หรือไซนัส อาจทำให้น้ำลายไหลมากเกินไปได้ การรักษาภาวะเหล่านี้ด้วยยาแก้แพ้หรือยาลดน้ำมูกอาจช่วยลดอาการน้ำลายไหลได้
9.การบริหารลิ้น: บางคนพบว่าการบริหารลิ้นบางอย่างสามารถช่วยปรับปรุงการควบคุมกล้ามเนื้อและลดน้ำลายไหล คุณสามารถปรึกษาเรื่องนี้กับนักบำบัดการพูดเกี่ยวกับแบบฝึกหัดเฉพาะที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
10.ไปพบแพทย์: หากอาการน้ำลายไหลระหว่างการนอนหลับยังคงอยู่แม้ว่าจะลองใช้มาตรการเหล่านี้แล้วก็ตาม จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ พวกเขาสามารถประเมินว่ามีเงื่อนไขทางการแพทย์พื้นฐานที่ก่อให้เกิดปัญหาหรือไม่ และแนะนำการรักษาที่เหมาะสม
การนอนน้ำลายไหลเป็นครั้งคราวระหว่างการนอนหลับเป็นเรื่องปกติสำหรับคนส่วนใหญ่ และไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป เว้นแต่จะกลายเป็นปัญหาสำคัญหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย
.
.
อย่างไรก็ตาม หากน้ำลายไหลระหว่างนอนและซึมลงเข้าไปในหมอน จะทำให้หมอนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย และอาจเกิดเชื้อรา ทำให้หมอนมีกลิ่น และป่วยจากเชื้อโรคได้
กันเปื้อนหมอน (ไม่ใช่หมอน)
สามารถป้องการน้ำ (น้ำลาย,คราบเหงื่อ)
ไม่ให้ซึมลงไปในหมอนได้